วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เมื่อผมกลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้งกับ #โรงเรียนพลเมืองเน็ต

         ในครั้งนี้ผมได้รับโอกาสเข้าร่วมโรงเรียนพลเมืองเน็ต (รุ่นแรกเลยแฮะ) ของ ThainetizenNetwork หรือ เครือข่ายพลเมืองเน็ต มูลนิธิเพื่ออินเทอร์เน็ตและวัฒนธรรมพลเมือง  ระหว่างวันที่ 29-31 พ.ค. 2557 ณ  คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ ศูนย์ท่าพระจันทร์ โดยเนื้อหาการอบรมจะเกี่ยวกับ "การอภิบาลอินเตอร์เน็ต" หลักๆก็จะเป็นเรียนรู้ประเด็นกฏหมาย เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ที่ส่งผลต่ออินเตอร์เน็ตและประเด็นที่เกี่ยวข้องครับ ผมว่าเป็นการสอนบวกกับพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันมากกว่า บรรยาการสนุก เป็นกันเองมากกับ Speaker และผู้เข้าร่วมอบรมทุกมท่านเลยย

หนังสือ+กระเป๋า แจกตอนลงทะเบียน เอกสารนี่เป็นปึ้งง อิอิ


เนื้อหาอบรมก็ประมาณนี้ตลอด 3 วัน


Section อินเตอร์เน็ตทำงานอย่างไร
โดย พี่ฟอร์ด อรรณพ สุวัฒนพิเศษ @FordAntiTrust



           โดยรวมของ Section นี้ เนื่อหาประมาณวิชา Intro Network เลยครับ ไล่ปูตั้งแต่พื้นฐานเลย ผมชอบน่ะถือว่าได้ทบทวนความรู้ไปในตัวอีกรอบ เป็น Section เดียวที่รู้เรื่องมั้งครับ 55555  คงไม่ต้องแปลอะไร เรียนคอมน่าจะรู้เรื่องกันหมด 555

ความมั่นคงปลอดภัยทางคอม
1. Confidentiality ความลับ
- Access Control > Authentication
2. Integrity ความถูกต้อง
- Prevention ป้องกัน/Detection ตรวจสอบ
3. Availability

สร้างระบบให้มั่นคง
1. Disaster recovery plan แผนกู้คืน
- Backup / RAID
2. Distributed, Fault-tolerant, High-availability and Clustering computer systems กระจายการทำงาน
3. Intrusion Detection System ตรวจผู้บุกรุก
-  Firewall / Antivirus
4. Information security audit
5. Digital Certificate
6. Encryption
7. Digital Signature

มีพูดไปถึง TLS/SSL , HTTP/HTTPS , Digital certificates , CA: Certificate Authority, VPN , OpenPGP , Tor , Multi-Factor Authentication
- Some thing you have
- Some thing you know
- Some thing you are

ภัยคุกคาม และการโจมตี (เปิดเผย/หลอกลวง/ขัดขวาง/ควบคุมระบบ)
Attacker = เจาะระบบโดจไม่ได้รับอนุญาติ
- Keystroke logging ดักข้อมูลจากคีย์บอร์ด
- Vulnerability and Zero Day Exploit ช่องโหว่โปรแกรม
- Malware ไวรัส สปาย โทจัน etc.
- Spam mail
- DoS ยิงถล่มเยอะๆจนเป้าหมายตายย
- Sniffer คุกคามโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูล ดักจับข้อมูลอย่างเดียว
- Phishing เมลล์หลอก
- DNS Spoofing and Pharming
- Man in the middle Attacks คุกคาม ดักจับ เปลี่ยนแปลงข้อมูลและถอดรหัสข้อมูล
- self-signing/untrusted Certificate Authorities ปลอม เว็บหลอก
- Cross-site Scripting ฝั่งเข้ามากับสคริป CSS-XSS
- ClickJacking ใช้ iframe หลอก




Section Cybercrime อาชญากรรมไซเบอร์
ดร.จอมพล พิทักษ์สันตโยธิน คณะนิติศาสตร์ ม.หอการค้าไทย

ในขณะอินเตอร์เน็ตถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร อีกด้านนึงถูกใช้เป็นเครื่องมือประกอบการอาชญากรรม

ตัวอย่าง
- Twitter  U.S. Central Command (CENTCOM) ถูก hack โดย ISIS
- นายกท่านนึงโดน Hack website ของรัฐบาลเพื่อด่าทอ
- ข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน บ. Sony โดน hack มาปล่อย
,
อาชญากรรมไซเบอร์ ยังไม่มีคำจำกัดความ
 -Tomas กับ Lolane กิจกรรมที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสิ่อกลางที่ผิดกฏหมายหรือละเมิดต่อบรรทัดฐาน (illicit) และดำเนินการผ่านเครือข่าย

ในเชิงกฏกฏมาย การกระทำที่กฏหมายกำหนดให้เป็นความผิดทางอาญา
ในเชิงสังคมวิทยา การที่แสดงหรือส่อเจตนาและอันตรายต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
-พฤติกรรมเบี่ยงเบน (deviance) ที่ละเมิดต่อบรรทัดฐาน (norm) ปละก่อนให้เกิดความเสียหาย (harmful)

กฏหมายยังไม่ให้เป็นการกระทำความผิด = การเฝ้าติดตาม รังควาน (strokeing) > ส่องเฟสแล้ว inbox จีบ  พอไม่รับรัก ก็ส่งข้อความไปด่าทอ เอารูปของเขาไปเปิดเพสใหม่ขายบริการ

การล่าแม่มดในโลก online ละเมิดความเป็นส่วนตัว?
กฏหมายอังกฤษมี ไทยยังไม่มี

Internet เครือข่ายคอมพิวเตอร์ - มองในแง่โครงสร้าง
Cybetspace พื้นที่เสมือนที่อยู่จากการเชื่อมต่อของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ - มองแง่พฤติกรรมมนุษย์

อาชาญากรรมเรารู้จักกันอยู่ในรุ่นที่ 3
รุ่นที่ 1 อาชญากรรมที่ขึ้นกับคอมพิวเตอร์โดดๆโดยไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายใดๆ เช่น บริษัทเก็บข้อมูลในคอม แล้วมีคนเอาค้อนมาทุบข้อมูลในนั้นเสียหาย (พรบ. คอม เข้าถึงทางกายภาพ?)
รุ่นที่ 2 เกิดขึ้นบนระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อต่อกัน ส่งไวรัส-เวิร์ม, hack ระยะไกล
รุ่นที่ 3 อาชญากรรมเกิดโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ตั้งไว้ให้ดำเนินการเองโดยอัตโนมัส เช่น Spam Mail

ปัญหา พรบคอม ใช้คำว่า ผู้ใด=คน แต่กรณีที่กระทำโดยตัวโปรแกรมล่ะ ?

เข้าเว็บโป๊แล้วติดไวรัส เราโดนกระทำ (ในกฏหมายต้องมี เจตนา)

Cybercrime แบ่งได้
1.กระทำตามผิดแบบดั้งเดิม  ต่อให้ไม่มีคอมหรืออินเตอร์เน็ตก็เกิดขึ้น เช่น หมิ่นประมาท ฉ้อโหง ข่มขู่
2. การกระทำผิดที่มีคอมพิวเตอร์เข้ามาด้วย ช่วยให้กระทำความผิดง่ายและขยายวงกว้งกว้างมากขึ้น

พรบคอม กำหนดให้ความผิด ปี 2550 เป็นต้นมา
การกระทำที่ต้องมีคอมพิวเตอร์?

อาชญากรรมทางเนื้อหา การกระทำกับเนื้อหาที่ถือว่าเป็นความผิดกฏหาย เช่ย การเผยแพร่สื่อลามก การหมิ่นศาสนา ปฏิเสธการฆ่าล้าง

กฏหมายที่เกี่ยข้อง
พรบ ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
อนุสัญญาว่าด้วยอาชญากรรมไซเบอร์

ปัญหา การกระทำเกิดนอกประเทศ มีกฏหมาย รู้ว่าทำผิด แต่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าประเทศไม่มีสทธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน



Section Internet content Regulation การกำกับดูแลเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ต
ดร.จอมพล พิทักษ์สันตโยธิน คณะนิติศาสตร์ ม.หอการค้าไทย

รัฐสามารถทำผิดพลาดได้และมีแนวโน้มทำพลาดได้

Content-basedRegulation
การเข้าไปดูแลการเข้าถึงและการเผยแพร่ความคิดเห็น ข้อความคิด บลาๆ ในรูปแบบต่างๆ
Content Regulation
- Censorship ปิดกั้นเนื้อหา
- Conditional Access and Dissemination การกำกับดูแลอย่างมีเงิ่อนไข ไม่ได้ปิดกั้นไปเลย ยอมให้มีการเผยแพร่หรือเข้าถึงได้โดยมีเงื่อนไขบางอย่าง

มาตารการคัดกรองการเข้าถึงข้อมูล (No Regulation)
State Regulation
- รัฐเข้ามา ใช้มาตรการทางกฏหมาย
- มีหน่วยงานรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินแต่เพียงผู้เดียว
Self-Regulation
-มีกฏระเบียบและมาตรการของตัวเอง โดยกฏหมายหรือรัฐไม่ได้กำหนด
-ผู้ดำเนินมาตรการเป็นองค์กรเอกชน ไม่ใช่รัฐ เช่น ISP ถ้าเจอก็แจ่งให้เนื้อหาเอาออก
-กำหนดเกณฑ์พิจารณตัวเองโดยไม่มีรัฐมาแทรกแซง
-ที่บ้านพ่อแม่เอา app ลงเพื่อ filter เว็บโป๊ ในระดับ user
- ASACP | Association of Sites Advocating Child Protection
Co-Regulation
-ร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน
-เอกชนจะเป็นหลักในการดำเนินมาตรการกำกับดูแล
-หน่วยงานรัฐสนับสนุน เช่น ดำเนินการทางกฏหมาย
-องค์กรเอกชนเป็นศูนยศ์กลางระหว่างเอกชนด้วยกันเอง และเป็นตัวแทนของเอกชนในการประสานงานกับรัฐ

นโยบายของ European Union
-ต้องอยู่บนพื้นฐานของ freedom of expression ปกป้องศักดิศรีความเป็นมนุษย์และเด็ก
-จำกัดสิทธิตรงนั้นได้ แต่ต้องมีกฏหมายภายในกำหนด
-สนับสนุนให้แต่ละประเทศสมาชิก ใน Self-regulation
แบ่งเนื้อหาที่ผิดกฏหมายออกจากเนื้อหาอันตราย
- Illegal content – child pornography ห้ามดำเนินการทางกฏหมาย
- Harmful Content เนื้อหาที่ไม่ผิดกฏหมาย ผู้ใหญ่เข้าถึงได้ แต่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก เช่น สิ่อโป๊ธรรมดา -> ต้องให้ห่างจากเด็ก สนับสนุนให้อุตสาหรรม IT สร้างความตระหนักรู้ filtering and rating systems / awarenessraising/ media literacy , EU ให้เงินไปพัฒนา Tool แต่ไม่เข้าไปแทรกแซงกฏหมาย

โป๊/ลามก เห็นหมด เห็นส่วนใหญ่ เปิดเผยร่างกาย
อนาจาร = การกระทำเลวทราม ล่วงละเมิดทางเพศลักษณะไม่เหมาะสม ไม่ต้องร่วมเพศ

การกำกับดูแลเนื้อหามาไทย
1.หน่วยงานรัฐดำเนินเป็นหลัก
2.ให้อำนาจรัฐ ม.20 block แมร่งง
3.ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรการปิดกั้น censor
4.มี Self-regulation เช่น pantip > กระทู้โดนลบ โดนอุ้ม > ลดความโปร่งใส ละเมิดยังไงตรงไหน
5.มีองค์กรเอกชนที่ทำหน้าที่เป็น hotline เช่น thaihotline.org
6.หน่วยงานรัฐก็มี hotline เช่น 1212 ของ MICT
hotline ทั้งสองไม่ประสานงานกัน ต่างคนต่างทำ คนล่ะมาตรฐานกัน

กระบวนการ Block web ตาม ม.20
แจ้ง > MICT ปราบปรามเทคโนโลยี > sent block list+คำร้องขอ ออกหมาย> ศาลโอเค  > ส่งไป ISP

พรบ. คุ้มครองข่าวสาร (คุ้มครองความเป็นส่วนตัว) pavicy ของนิติบุคคล



Section พรมแดนกับอินเตอร์เน็ต : ขอบเขตอำนาจศาลและความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องอาญา
โดย  พ.ต.อ.ดร.ชิตพล กาญจนกิจ ผู้กำกับการฝ่ายสนธิสัญญาและกฎหมาย กองการต่างประเทศ


หน้าที่ตำรวจสากล
1.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
2.ความร่วมมือทางอาญา
พม่า,ต่างด้าว,เขมร,เวียดนาม กฏหมายไม่อนุญาติ แต่รัฐบาลให้อยู่ชั่วคราว
สิทธิสภาพนอกอณาเขต > เขาบอกว่าไทยเถื่อน ล้าสมัย

**ข้อมูลไม่ใช่ทรัพย์หาค่าไม่ได้ เลยขายข้อมูลได้

หลักการทั่วไปในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน 9 ข้อ
1. ความผิดอายุความ  1 ปีขึ้นไป
2. ความผิด 2 รัฐ (ต้องมีกฏหมายความผิดในรัฐนั้นด้วย)
3. ไม่ใช่ความผิดเกี่ยวกับการเมือง ความมั่นคง เชื้อชาติ ศาสนา จับแล้วไม่เกิดความแตกแยก
บลาๆ ...

การส่งผู้ร้ายข้ามแดนปัจจุบัน
1. Extradition laws : ส่งแบบปกติ ดำเนินทางกฏหมาย ใช้รยะเวลานาน ขั้นตอนเยอะ
2. MLA : เป็นระบบกลางของประเทศสมาชิกที่เข้าร่วม ปีล่ะ 3 ล้าน ช่วยล่นระยะเวลาทางกฏหมายปกติในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน หลักการ ประเทศต้นทางยกเลิก Visa จากนั้นแจ้งเข้าระบบ ประเทศปลายทางทราบจะไปจับกุมตัวในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ( Visa ถูกยกเลิก) จากนั้นจะส่งตัวผลักดันออกนอกประเทศ โดยมีประเทศต้นทางมารับช่วงต่อ

ไม่ส่งคนของประเทศตัวเองไปรับโทษอีกประเทศ (กฏหมายแต่ล่ะบ้านไม่เหมือนกัน)



Section คนกับสังคมยุคอินเตอร์เน็ต : การวิจัยด้านอินเตอร์เน็ตกับวิธีวิจัยทางสัมคมวิทยาและมนุษยวิทยา
โดย อาจารย์ธิติมา อุรพีพัฒนพงศ์


ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าถึงและรับรู้ข้อมูล?
อินเตอร์เน็ต เป็น International concers? (เน็ตหลุดมาจากรัฐจึงใช้ Inter)

ข้อมูลส่วนตัวถูกซื้อขายโดยไม่สามารถควบคุมได้เลย (ไม่มีกฏหมายควบคุม)
- เทคโนโลยีรู้ใจ > ละเมิด privacy
- กฏหมายสิทธิบัตรให้จดได้โดยไม่สน privacy

ลักษณะเฉพาะกฏหมายระหว่างประเทศ
- ความยินยอมของรัฐ สำคัญมากในการก่อเกิดกฏหมายระหว่างประเทศ แต่ ** เหตุผลชอบธรรมแค่ไหน แต่ถ้ารัฐไม่ยินยอมด้วย ก็ทำอะไรไม่ได้
- ทุกรัฐมีอำนาจสูงสุดในดินแดนตนเอง
- สภาพบังคับ แต่ก็ไม่ได้สุดทาง เพราะว่าไม่ทำตามก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีกองกำลัง UN ที่สามารถไปจัดการได้ แต่ถ้าตอนพูดคุยระบุไว้ว่าถ้าไม่ทำตามจะให้ศาลโลกตัดสิน อันนี้ต้องทำตาม

เครื่องมือระหว่างประเทศ > กดดันประเทศนั้นให้เปลี่ยนแปลง
เช่น งาช้างในไทย  เราไปเข้าร่วมแต่ไม่ร่วมมือ โดนกดดันว่า หากไม่ดูแลจัดการตามที่คุยกัน จะจำกัดการส่งออกกล้วยไม้ไทย จึงต้องยอมทำตาม

เขตอำนาจรัฐ เช่น การก่อการร้าย ไฮแจ๊คเครื่องบิน สามารถฟ้องร้องประเทศนั้นได้ , อาชญากรรมในทะเลหลวง ก่อการร้าย โจรสลัด (ไม่ได้ของประเทศใด) ให้รัฐใดก็ได้ที่พบเห็น ใช้อำนาจรัฐตัวเองเข้าไปดำเนินจับกุมได้

กฏหมายระหว่างประเทศ ถ้ายอมรับสนธิสัญญาแล้ว กฏหมายภายในประเทศยังขัดอยู่ ก็ต้องแก้ในรัฐตัวเอง ไม่สามารถเอาเหตุผลนี้มาเป็นข้ออ้างได้

กลุ่มกิจการธนาคาร ประกันภัย
- สมัครบัตรเครดิต บังคับให้เปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทในเครือทั้งหมด * ข้อสัญญาไม่เป็นธรรม
- บันทึกเสียง ต้องขอความยินยอม ? ไม่มีกฏหมายรับรองการอัดเสียง
- ขายประกันทางโทรศัพท์ได้ ยกเลิกในเวลาที่กำหนดได้

เสรีภาพในการแสดงออก
- แต่ละรัฐมีสิทธิบน internet ที่ต่างกัน
เช่น Yahoo Case มีการเสนอขายของที่ระลึกนาซี มุมองฝรั่งเศษ > เหยีดหยามเชื้อชาติ
ศาลฝรั่งเศษตัดสินให้ yahoo จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาจากฝรั่งเศษ
YouTube ฟ้องศาล USA ให้คำสั่งศาลฝรั่งเศษถูกไม่รองรับ เพราะส่งผลต่อการแสดงออกใน USA


ปิดท้ายด้วยการ discuss ความรู้ทั้งหมดทั้ง 3 วัน

          ก็สรุปที่นึกออก+โน๊ตไว้ก็ประมาณนี้ครับ เอาจริงๆมาเขียนตอนนี้ก็มีลืมไปเยอะล่ะ 5555 ถ้ามีรุ่นต่อไป ใครที่ว่างๆก็ลองสมัครไปดูครับ งานนี้ผู้จัดจัดได้ดีมาก แล้วก็ Speaker แต่ล่ะท่านก็พูดดี สามารถเห็นความเชื่อมโยงแต่ล่ะ Section เข้ากันได้หมด  พูดเลยว่าได้ความรู้เยอะมาก  ผมเรียนวิศวะนี่รู้กฏหมายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้น้อยโครตๆ พอมาได้เข้าได้ฟังผู้ที่มีความรู้เรื่องนี้มาพูด มาถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โครตจะได้อะไรเยอะเลยครับ ลองดูครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2558

1st Generation of NIV (NBTC:ITU Volunteers) #NIV2014

          ตามจริงผมเขียนมานานแล้วน่ะ แต่ไม่เสร็จสักที ปีกว่าๆล่ะเนี่ย เพราะชีวิตมันยุ่งมาก ไม่รู้อะไรนักหนา ก็เลยคิดว่าถ้าจะเขียนแล้วปล่อยทีเดียวทั้งหมดไม่เสร็จแน่ๆ ชาตินี้คงไม่ได้ปล่อย (ที่จริงคือขี้เกียจล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นปน 555) ผมเลยจะเขียนแยกเป็น 2 part โดย part แรกจะเป็นอันนี้คือ "First Gen of NIV"  เอาเป็นว่าจะเขียนประมาณรีวิวโครงการโดยภาพรวมว่าไงบ้างในความคิดของผมเองน่ะ , อีก part นึงที่ผมจะเขียนคือ "บันทึกวิศวะคอมอาสาไปทำงาน ICT ที่อำเภอติดชายแดนพม่า" ว่าที่ผมไปทำงานเป็นไงบ้าง จะสนุกหรือดราม่าแค่ไหน ลองตามดูครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเขียนเสร็จตอนไหน ขอขายของก่อน 5555

        มาเริ่มกันเลย... โครงการที่ผมไปแจมด้วย คือโครงการที่มีชื่อว่า "โครงการอาสาสมัคร NBTC– ITU หรือ NIV จิตอาสา เพื่อสังคม หรือ NBTC:ITU Valunteers" โดยเป็นโครงการความร่วมมือกันระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  (กสทช.) (NBTC) และ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งเหล่าอาสาสมัครฯ ที่หลวมตัวมาแล้ว อิอิ จะต้องถูกส่งตัวไปประจำการ ณ ศูนย์ USONET โดยมีภารกิจหลักๆคือ อบรมความรู้ด้านไอซีทีพื้นฐาน ให้ผู้ดูแลศูนย์และผู้ใช้งานทั่วไปของศูนย์ USONET แล้วก็พัฒนาเว็ปไซต์ของชุมชน ใช้พวก CMS (Wordpress) , ทำ video ประชาสัมพันธ์โครงการ+ศูนย์ USONET รวมถึงภูมิปัญญา-ของดีประจำท้องถิ่นที่เราไปลงพื้นที่


เฟี้ยวเลย
(ซ้าย) กสทช. พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร (สายงานกิจการโทรคมนาคม)
(ขวา) พี่บิว นายวิสิฐ อติพญากุล (ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคมและไอซีที สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ)  

          ต้องบอกก่อนเลยว่า โครงการนี้ผ่านตาผมมาหลายรอบ ทั้งโปสเตอร์ที่ภาค ทั้งอาจารย์มาโพสในเฟส แต่ยังไม่คิดสมัคร เพราะตอนนั้นยุ่งๆอยู่กับช่วงสอบ เลยลืมๆไป นึกขึ้นได้เข้าไปดูอีกทีหมดเวลาแล้วแต่โครงการดันขยายเวลาสมัครซะงั้นโชคดีชิบเป๋ง 5555  ก็เลยคิดว่าน่าจะสมัครไปดูเล่นๆสักหน่อยเผื่อติดจะได้ไปเที่ยวด้วย อาสาอะไรไม่อยู่ในหัวเลยตอนนั้น รู้แต่จะไปเที่ยวอย่างเดียว (นี่พูดตรงๆเลยน่ะ คิดว่าเพื่อนๆหลายคนที่สมัครก็เหมือนกันอ่ะแหล่ะ 555)  แต่ถ้าไปแบบ alone ก็ยังไงอยู่ เลยหาเพื่อนดีกว่าสักคนสองคน แต่ก็คิดในใจ ใครฟร่ะจะบ้าไปกับตรู แต่ล่ะคนอยู่ติดแต่หน้าคอม มันจะไปกันเหรอ ก็พอดีเลย เห็นพี่เอ็ม (รุ่นพี่ในภาค) ออนสีเขียวน่าดึงดูดอยู่ ก็เล่นทักแชทไปชวน  ปรากฏว่าแกเอาด้วย เอาแล้วเว้ยเห้ยย!! มีเพื่อนไปแล้ว ก็จัดการสมัครทันที

           เมื่อสมัครเรียบร้อย จากนั้นทางโครงการก็จะนัดสอบสวน เอ้ย สอบสอบสัมภาษณ์ โดยสามารถนัดสอบสัมภาษณ์ได้สองแบบคือจะสัมภาษณ์ทาง Skype หรือถ้าสะดวกหน่อย ก็เดินทางก็มาด้วยตัวเองที่ สำนักงาน ITU เลยครับ  ผมเลือกสอบสัมภาษณ์ผ่านทาง Skype เพราะสะดวกดี ส่วนกรรมการสอบสัมภาษณ์พูดเลยว่า ขาโหดทั้งนั้น อารมณ์เราจะประมาณว่า ดุจประหนึ่งเป็นผู้เข้าแข่งขัน SME ตีแตก ยังไงอย่างนั้น 55555 ก็ถามหมดโดยอิงข้อมูลมาจากที่เราสมัครกรอกข้อมูลไป

           สำหรับผม ผมโดนใจคำถามอยู่คำถามนึง เน็ตเวิร์คลอยมาแต่ไกล 5555 ตามจริงก็เบสิคอ่ะแหล่ะ แต่ก็ต้องคิดหน่อย "หากพี่มีศูนย์คอมพิวเตอร์อยู่ในพื้นที่ห่างไกล 10 เครื่อง ทุกต่อต่อจาก Server อาจใช้เน็ตดาวเทียม น้องจะออกแบบระบบหรือทำยังไงให้รู้ว่าคอมตรงนั้นยังใช้งานได้" อุต๊ะ!! ก็ตอบไปสั้นๆ ping ไงครับพี่ ถ้า ping ติดมันก็รู้ว่าใช้งานได้ ถามว่าคำตอบถูกไหม มันก็ถูกน่ะ ถูกครึ่งๆ คงต้อง  assume เยอะหน่อย มันเลยดูเกรียนๆไปสักหน่อย น่าจะคิดอะไรมากกว่านี้สักนิดด อีกข้อจะเป็นแบบ "มีอะไรที่เป็นข้อเสียของตัวเองบ้าง" ก็ไม่มีน่ะ ปกติเป็นผู้ชายน่ารัก ใสใส จะตอบไม่มีเลยก็เกรงใจกรรมการ ก็เลยบอกไม่รู้ น่าจะไม่มี ให้พี่เอ็มตอบล่ะกัน (จังหวะนั้นพี่เอ็มน่าจะคิดน่ะว่าโยนงานให้กรูอีกแล้ว 5555)

แล้วก็รอประกาศผล
........
.....
รอ
..
.
และแล้วก็ติด อู๊ยย ลุ้นแทบใจจะขาดกว่าฟังประกาศผล GAT/PAT ซะอีก (ใส่ฟิลลิ่งนีสนึง ตามจริงก็ลุ้นอยู่นั่นแหล่ะ)



Go to Boots Camp!!

           ต่อมา เราก็ถูกส่งตัวไปค่ายกักกันพิเศษ เอ้ย ไปค่าย Boots camp ที่ The Pine Resort ปทุมธานี (WiFi กากมากๆ) เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน จะเป็นแคมป์ที่จัดขึ้นมาเพื่อมอบสิ่งของ ความรู้ ประสบการณ์ และทุกๆอย่างที่จำเป็นในการลงพื้นที่เพื่อไปปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้าน IT ที่เราต้องมีติดตัวไว้เพื่อที่จะไปมอบให้ชุมชน รวมถึงกิจกรรมต่างๆสร้างความสัมพันธ์ให้สนิทกันระหว่างอาสาฯ หรือแม้กระทั่งวิทยากรประสบการณ์แน่นเกี่ยวกับงานอาสา  มาพูดปลุกพลังอาสาในตัวเราให้เต็มที่

         พูดถึงในค่ายเตรียมความพร้อมนี้ ผมชอบทุกกิจกรรมน่ะ ผมว่าผู้จัดเตรียมงานได้ดีเลยทีเดียว กิจกรรมที่ใส่มาให้พวกเราครบทุกๆด้าน ทั้งด้านจิตวิญญาณอาสา ที่มี Speaker มาพูดๆ ทำให้ฉุดคิดอะไรได้เยอะมาก อยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้อารมณ์แบบประมาณว่ะ เห้ยจริงว่ะ ทำไมเราไม่ทำ (ถึงหลังจากค่ายก็กลับเป็นเหมือนเดิมก็เหอะๆ 555) และความรู้ด้าน IT ที่จะต้องเอาไปมอบต่อให้แก่ผู้คนในพื้นที่ที่เราไปอยู่ ยิ่ง Section Camp Activity นี่ชอบใหญ่ ได้เล่นน้ำสนุกมาก 555

Section Camp Activity

Section CMS & Intro ITU,NBTC,USO

Section 7 Habits & Mirror Foundation Session

Section Photo/Video Shooting Techniques & The Mirror Foundation

Section Intel Easy Step

Intel Certification

           ยกเว้นก็แต่ Section Intel  ค่อนข้างน่าเบื่อมากเอาน่ะตรงๆ ผมว่า Microsoft Office นี้ทุกคนมีความรู้พื้นฐานอยู่แล้ว แต่ต้องมานั่งเรียนใหม่ตั้งแต่ต้น แทบอยากจะกรี๊ด&กลับห้องนอน (เมื่อคืนนอนไม่พอ 5555) แต่ก็น่ะวิทยากรมาสอนเราก็ต้องตั้งใจหน่อย อิอิ ถึงจะคิดในใจว่าถ้าไม่มีใบ Certificate ให้นี่คงไม่อยู่แล้วก็เหอะ (อันนี้ล้อเล่นน่ะครับ อิอิ) ส่วนที่เฟลๆมากเลยก็คือ Section Photo/Video Shooting Techniques ผมว่าวิทยากรเขามั่นในตัวเองมากกก คือแบบมันรู้สึกได้เลย ถึงเข้าใจว่าพี่เขาเทพมากก็เถอะ  ผมก็เล่นกล้องมานานอยู่ก่อนแล้วน่ะ ใน class พี่แกก็ถาม บางอันก็ไม่มีใครตอบ ก็เลยตอบไป ไอที่ตอบก็ไม่ได้อวดรู้อะไรหลอก แต่โดนพี่แกแซะกลับมาว่า อันนี้จำมาจากไหน pantip เหรอ โถ่ว น้ำตาจิไหลกับพี่แกจริมๆ

Depart from the Resort

           จากนั้นก็เป็นพิธีปิดการอบรม Boots Camp บอกรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ที่เราจะไปลง รวมถึงเพื่อนสมาชิกในทีมที่จะลงพื้นที่ด้วย (กรณีโดนจัดทีมใหม่) ซึ่งทีมผมมีสองคน มีผมกับพี่เอ็ม แต่พอมาตอนหลังพี่เอ็มติดอะไรสักอย่าง เลยอดมา แมร่งลอยแพกรูชัดๆ หลอกให้ดีใจที่หาเพื่อนได้แล้วก็จากไป (ล้อเล่นน่ะพี่ แต่ผมคิดจริงน่ะ ล้อเล่นๆๆ 55555) ก็เลยมาได้กลุ่มใหม่ มีเพื่อนอีกสองคน คือ แบงค์ จาก ม.เทคโนโยราชมงคลธัญบุรี กับเติ๊ล จาก ม.ธนบุรี เป็นทีมที่ลงตัวกันสุดๆเลยน่ะครับแหม่ (ไม่ได้กัดฟันพูดเลย พูดอย่างจริงใจที่สู๊ดดด 5555)  และปิดท้ายด้วยการแจก Certificate Intel จากนั้นก็จะถูกส่งตัวไปลงพื้นที่ทันที โดยมีพี่ๆจาก ITU พาเราไป ...

Togetter Team

เริ่มต้นแล้ว!! ชีวิตอาสาสมัคร 6 สัปดาห์

          ก่อนที่จะลงพื้นที่ แน่นอนว่าก็ต้องมีอุปกรณ์ใช้ ไม่อย่างนั้นจะไปทำตามงานที่โครงการกำหนดไว้ได้ไง ซึ่งทางโครงการจะจัดให้ทุกทีมเลย เย้!! อย่าดีใจไป เมื่อหลังจากลงพื้นที่ครบระยะเวลาการทำงาน อาสาฯจะต้องมอบอุปกรณ์ทั้งหมดให้แก่พื้นที่ ที่เราลงไปทำงาน โดยอุปกรณ์ในการทำงานที่มีให้ก็จะประกอบไปด้วย
1. กล้อง DSLR หรือ Video Camara 1 เครื่อง + ขาตั้งกล้อง
2. Computer Notebook 1 เครื่อง
3. Dtac SmartPhone Joey ตามจำนวนคนในทีม
         โดยตลอดเวลา 6 สัปดาห์ จะมีเบี้ยเลี้ยงให้อีก 8,000 บาท เอาไว้ใช้จ่ายเป็นค่าต่างๆ เช่น อาหาร ค่าเดินทาง บลาๆ และทางโครงการจะออกค่าเช่าที่พักหรือดูแลเรื่องที่พักให้ทุกทีม มีประกันชีวิตให้ด้วย เอาเป็นว่าเตรียมตัวกับหัวใจที่มีจิตอาสาอยู่เต็มเปี่ยมไปก็พอ อิอิ อ้อเกือบลืม แต่ล่ะกลุ่มก็จะมีพี่ประสานงานดูแลพวกเราหนึ่งคน จะเป็นคนที่คอยดูแลเราในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเป็นปัญหาอะไรที่เกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือตลอดระยะเวลาที่เราลงพื้นที่อยู่ ทีมผมได้พี่นึ้งคนสวยจาก ITU (เพื่อนแบงค์กระซิบมาว่าพี่เขาชื่อ หนิ่ง นี่เราเรียกผิดมาตลอดเลยเหรอ อายจุงง รู้สึกได้ชื่อนี้จากไอเติ๊ลน่ะ 5555) เป็นพี่ดูแลประจำทีม พี่เขาน่ารักน่ะ คุยปรึกษาดูแลพวกเราได้ทุกๆเรื่องจริงๆตลอดระยะเวลาที่ลงพื้นที่ จนบางครั้งก็เกรงใจพี่เขานิดๆ


         ทีมของผมได้ไปลงพื้นที่คือ จ.เชียงใหม่ครับ โดยจะได้ไปประจำศูนย์ USO-NET ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พื้นที่ติดชายแดนพม่าเลย โดยจังหวัดที่เราจะไปลงนั้นทางโครงการจะให้เลือกก่อนในตอนสมัคร ว่า 3 อันดับแรกที่ทีมเราต้องการจะไปที่ไหนบ้าง จากนั้นกรรมการก็จะตัดสินอีกทีโดยดูความเหมาะสมและประสบการณ์ของเราเอง รวมถึงความถนัดของอาสาเองว่าเป็นความถนัดที่ทางพื้นที่ต้องการเป็นพิเศษรึเปล่า


ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จากสนามบินเชียงใหม่

          ตอนที่ลงพื้นที่ก็ต้องทำตามภาระกิจหลักของโครงการที่กำหนดไว้ อาจมีเพิ่มได้ตามที่พื้นที่ร้องขอ รวมถึงแผนที่เราวางไว้กับทีมว่าจะทำอะไรในพื้นที่บ้าง และที่สำคัญคือต้องส่งส่ง weekly report ทุกอาทิตย์ว่าเราทำอะไรไว้บ้างให้ทางโครงการทราบว่าความก้าวหน้าของทีมไปถึงไหนแล้ว ก็มีประมาณนี้ครับ ส่วนรายละเอียดของชีวิตอาสาฯลึกๆ ของผมเองตอนลงในพื้นที่ ขอยกไปเขียน Post "บันทึกวิศวะคอมอาสาไปทำงาน ICT ที่อำเภอติดชายแดนพม่า" ด้วยเหตุผลที่บอกไปข้างต้นน่ะฮ๊าฟ ตามมาเร็วๆนี้แน่นอน ><


ชีวิตอาสาฯจบ แต่งานยังไม่จบ!!

         หลังจากลงพื้นที่เสร็จ เราก็ถูกจับตัวกลับเข้าแคมป์อีกครั้ง 5555 แต่แคมป์ครั้งนี้เป็นแคมป์ประเมินผลของอาสาฯให้คณะกรรมการฟังว่าที่เราไปลงพื้นที่ เราไปทำอะไรมาบ้าง+ให้อาสาทุกกลุ่มพักผ่อนไปในตัว  ซึ่งมีระยะเวลา 4 วัน 4 คืน ณ แสมสารวิลล่า จ.ชลบุรี และอีกหนึ่งวันไป กสทช. เพื่อปิดโครงการ ทีมผมเดินทางตรงมาจากเชียงใหม่ โครตจะเหนื่อยเลยครัชชช มาถึงก็เกือบค่ำพอดี แต่ก็เป็นทีมแรกที่ไปถึง คืนแรกก็ไปหาอะไรทานแถวนั้น จากนั้นก็เข้าที่พัก นอนเอาแรงก่อนคืนแรก

เดินทางมาถึงชลบุรีเรียบร้อย มีพี่ดูแลศูนย์ USO-NET ตามมาด้วย


         พอเช้ามาของวันแรกตามกำหนดการคือ จะให้แต่ล่ะทีมเตรียมการนำเสนอกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มีกิจกรรมอะไร  ก็เป็นการพักผ่อนชิวๆไปก่อน ผมกับทีมอื่นก็รวมตัวกันเช่ารถชาวบ้านแถวนั้นไปหาดนางรำ เอาเป็นว่าสนุกดีครับ วิวสวย ลมดีแต่ร้อนไปหน่อย นอนกินลมชมวิวถ่ายรูป พายเรือเล่นๆกัน (ผมไม่พายหลอก กลัวดำ อิอิ) จากนั้นตอนค่ำนี่สิของจริง ปั่นงานกันมันเลยครัชพี่น้อง กลางวันไม่ทำไปเที่ยวซะ 5555

หาดนางรำ สัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ปั๋นงานสิครับพี่น้องเอ้ยย!!

             วันที่สอง และแล้วก็ถึงวันที่ลอยคอ เอ้ย รอคอย (มุก 5 บาท 10 บาทเล่นไปก่อน 555) ก็มาถึงการ present นำเสนองานที่ไปลงพื้นที่ของแต่ล่ะทีม ทีมผมได้แบงค์เป็นคนทำ Slide ผมนี่อึ้งเลย คือทำสวยมากกกก เป็นคนแรกในชีวิตที่เคยเห็นว่าทำ power point ได้สวยโครตๆ คือไม่คิดว่า  power point จะสามารถได้ขนาดนี้ ตามจริงผมว่าจะทำกับ Prezi ล่ะกัน ล้มเลิกความคิดไปเลย 

             มาพูดถึงการเสนอสักนิด ก็มีเวลาทีมละ 30 นาที จะนำเสนออะไรก็ได้ในที่สิ่งเราอยากเสนอให้กรรมการทราบถึงงานของเรา แต่ก็จะมีหัวข้อที่ควรจะนำเสนอ ประมาณนี้คือ
a. แนะนำชุมชนที่ไปทำงานด้วย รวมถึงความต้องการของชุมชน
b. แผนงานทีได้เตรียมไว้ก่อนเริ่มกิจกรรมต่างๆ
c. กิจกรรมต่างๆที่ได้ทำ
d. สภาพความเป็นอยู่ของอาสาสมัครเอง
e. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการดำเนินงาน
f. ข้อแนะนะ/ความรู้สึกที่มีต่อโครงการ
g. Video presentation: วีดิโอเกี่ยวกับชุมชน (ที่น้องๆ ได้ลงไปทำกิจกรรม)
           และที่สำคัญก็จะมีการถามจากคณะกรรมการขาโหดเหมือนเดิมมมมมม (อ่ะล้อเล่น กรรมการน่ารักทุกท่านเลย อิอิ) ก็ถามถึงงานที่ทำนี่แหล่ะ อะไรที่งานไม่เคียร์ ก็ตอบไปครับบบ ไม่มีอะไร แต่อาจตื่นเต้นเล็กน้อยถึงปานกลาง


หน้าตาอดนอนมาก 5555

ท่านกรรมการ & ทีมอื่นๆ


         

             วันที่สามเราก็ไปเที่ยวกันนน เย้!!! ไปที่เกาะแสมสาร จะบอกว่าผมชอบมากก เป็นเกาะที่ยังรักษาธรรมชาติดี แล้วก็ดูแล้วมีกิจกรรมอะไรเยอะเลยครับ ก็ได้มีโอกาส นั่งเรือกระจกกับดำน้ำดูปะการัง ก็ฟินปายย






       แล้ววันที่ 4 ก็จะเดินทางกลับไป กสทช. เพื่อเข้าร่วมพิธีปิดโครงการ ก็มีพี่ๆกล่าวถึงผลการดำเนินงาน รวมถึงนำเสนอกลุ่มที่เด่นๆมีผลงานเยอะหน่อย วีดีโอทำเทพๆไรงี้ ปิดท้ายด้วยเลี้ยงข้าวเที่ยงปิดงาน อ่านดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มีอะไรเยอะน่ะ 55555 ผมก็เป็นหนึ่งทีมในการนำเสนอด้วย ตื่นเต้นกว่าเดิมอีก 555 จากที่นำเสนอ 20 นาที ก็ต้องลดเหลือ 5  นาที (ถ้าผมจำไม่ผิดน่ะ) ก็เลยต้องปรับสคริปพูดกันใหม่ ปรับ slide ใหม่ด้วย เอาเฉพาะที่สำคัญที่เด่นๆ แล้วก็ตามด้วยคลิปวีดีโอ เล่นเอาหวิวๆเหมือนกันแฮะ ตอนพูดก็พูดไม่ค่อยออกมีติดขัดเยอะเลยจริงๆ ไม่รู้ดิอารมณ์ตอนนั้นพูดไม่ถูก เมื่อปิดโครงการเรียบร้อย ก็มีทานข้าวเที่ยงกัน จากนั้นก็แยกย้ายกลับบ้านเกิดกัน เศร้าเลย รู้สึกหวิวๆ TT


บรรยากาศตอนนำเสนอ

รวมแก็ง NIV2014

เหนื่อยแทบตาย ได้ใบนี้มาใบนึงกับประสบการณ์ที่มีค่าหาไม่ได้จากที่ไหน
           จบแล้วครับ สำหรับโครงการดีๆอีกหนึ่งโครงการ ผมกลับมานั่งทบทวนตัวเอง ผมว่าผมได้อะไรเยอะมากน่ะกับโครงการนี้ ประสบการณ์คงต้องไม่พูดถึง มันเยอะแน่นอนอยู่ได้ ได้เที่ยวแบบเข้าถึงไม่ใช่ไปถึง ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้คำสอนมุมมองดีๆจากพี่ๆในโครงการ เยอะแยะครับ ถ้าให้พูดคงพูดไม่หมด เอาเป็นว่าผมทิ้งท้ายล่ะกันว่า บางทีเรามีพลัง มีจิตใจที่อยากช่วยเหลือผู้อื่นหรือมีความรู้ความสามารถพอที่จะช่วยอะไรได้ ก็ช่วยไปเถอะครับ เมื่อเราได้เป็นผู้ให้ ได้มอบให้กับคนที่เข้าต้องการ มันจะกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามากน่ะ  ในวันหนึ่งคุณได้มองไปยังผู้รับที่คุณพยายามสอน พยายามมอบความรู้ให้เขา แล้วเห็นคนๆนั้นทำได้  คุณจะสุขใจมากเชื่อผมดิ ของแบบนี้ต้องลองดูด้วยตัวเองครับ (หาเหยื่อหน่อย 5555) หากเพื่อนๆว่างกันหรือไม่ได้ไปไหน มีจิตใจอาสามุ๊งมิ้ง อยากจะทำประโยชน์ให้อะไรให้แก่เพื่อนร่วมโลก ผมว่าโครงการนี้เป็นโครงการนึงที่น่าสนใจเลยทีเดียว ท่านใดสนใจก็ติดตามรายละเอียดได้ทาง facebook.com/NIV2014 เลยครับ หวังว่าเราจะมีโอกาสได้เจอกันน่ะ จุ๊บๆ :D