วันนี้ฤกษ์งามยามดี พอสอบเสร็จก็รีบทานข้าวแล้วก็แวะไปเมเจอร์เลย ดีที่ผมจองในเว็บไว้ก่อน พอไปถึงก็ลงทะเบียนรับตั๋วหนังได้เลย ไม่ต้องต่อแถวรอนาน แถมยังแถม CD เพลงด้วยอีกหนึ่งแผ่น จะบอกว่าคนมาเต็มมาก ไม่นึกน่ะว่าจะมีคนสนใจด้วยแฮะ
ถ้าถามว่าทำไมอยากดู ไม่รู้ดิ คงประมาณสอบเสร็จอยากคลายเคียสด้วย เทลเลอร์ผมก็ไม่ได้ดูเลยน่ะว่าเป็นไง แต่ก็เอาเถอะมนคงน่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้างเลยแวะไปดูสักนิด ผมว่าเรื่องนี้คนส่วนใหญ่อาจมองแค่ว่าคงเป็นหนังน่าเบื่อ ไม่มีอะไรหลอก ไม่ก็น่าจะเกี่ยวกับละครเพลงอะไรเนี่ย ผมก็มองแบบนั้น เพราะดูจากชื่อเรื่องมันพาไปประมาณนั้น แต่พอดูเสร็จผิดคาดไปหน่อย (ที่จริงเยอะแหล่ะ 555) เป็นหนังที่ผู้กำกับได้รับแรงบรรดาลใจจากเพลงพระราชนิพนธ์ของพ่อหลวงเรานี่แหล่ะ แต่ทำออกมาเป็นหนังสั้น ทั้งหมด 4 เรื่อง 4 ผู้กำกับ ซึ่งแต่ล่ะเรื่องก็มีความเป็นเฉพาะตัวของของมันออกไป วันนี้ก็มารีวิวสั้นๆขอเก็บความประทับใจไว้สักหน่อย
ผมชมที่ Hatyai Cineplex
เรื่องที่ 1 The Singers เป็นเรื่องของความรู้สึกของคนคนนึงที่ต้องสูญเสียสิ่งที่ตัวเองรัก กับคนที่พยายามรักษาสิ่งที่ตัวเองรัก
สำหรับผมเรื่องนี้เป็นหนังอารมณ์เบาๆ อินโทรเปิดเรื่อง ไม่ค่อยมีอะไรมาก เนื้อเรื่องเสพง่ายๆรงไปตรงมาและไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเลย
(Spoil)
เป็นการเล่าเรื่องที่คนๆนึง ชื่อเป้า ที่เป็นมะเร็งทำให้สูญเสียการร้องเพลง แล้วก็หนีมาอยู่วัด จนมาเจอยายหลานคู่นึง หลานเป็นโรคไต ส่วนยายเงินร้องเพลงเพราะมาก แต่ร้องให้หลานฟังคนเดียว เพราะตอนวันสาวไปร้องเพลงแล้วเป็นลมต่อหน้าคนเยอะๆ เลยฝังใจไม่กล้าอีก ช่วงนั้นมีประกวดร้องเพลงพอดี ยายเป้าเลยคะยั้นคะยอให้ยายเงินไปประกวดร้องเพลงะให้ได้ เพื่อเอาเงินมารักษาหลาน
VIDEO
เรื่องที่ 2 อมยิ้ม บางทีการที่คนๆนึงไม่แสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง ก็ใช่ว่าไม่รู้สึก ไม่ใช่ไม่คิดอะไรจริงๆ
ผมว่าเรื่องนี้คงโดนใจวัยรุ่นแน่ๆ ผมยังชอบเลย เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่อยู่ในโรงเรียน เขาไม่แสดงสีอารมณ์อารมณ์อะไรเลย จนเป็นตัวตลกของเพื่อนๆ โดนล้อโดนกระทำสาระพัด และได้มาเจอดาว ยิ้มหวานมาก ผมยังชอบเลย อิอิ ที่กำลังหาคนแสดงละครด้วย แล้วทั้งคู่ก็ได้แสดงล่ะครกัน จากนั้นก็มีเรื่องตามมามากมาย ....
ก้อง: เราจะกลับมารักกันได้มั้ย?
ดาว: ผมจะกลับไปรักคุณได้ยังไง ในเมื่อผมไม่เคยหยุดรักคุณเลย
ตอนจบยัดคำคม ทั้งๆที่ผมว่าไม่ค่อยเข้าน่ะ แต่ก็โดนดี มันช่วยให้ฉุดคิดอะไรขึ้นมาได้สักหน่อย ประมาณว่า "ที่ผ่านมาเรากล้าที่จะโกรธกัน กล้าที่จะแสดงความเกลียดที่มีต่อกัน กล้าที่จะทะเลาะกัน แต่กลับไม่กล้าที่จะยิ้มและบอกรักให้กัน"
"เรา" รู้สึกรำคาญ คนที่เดินอยู่ข้างหน้าเราแบบเอื่อยๆ แต่เราไม่รู้หรอกว่าเขาพึ่งจะสอบตกมา
"เรา"รู้สึกไม่ชอบอาจารย์ที่เอาแต่หัวเราะร่าเริงไปวันๆ แต่เราไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นมะเร็ง
"เรา"บีบแตร์ใส่คนที่กำลังข้ามถนนแบบ กระตุกกระตัก แต่เราไม่รู้หรอกว่าเขาใส่ขาเทียมอยู่
คุณอาจจะรู้ว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไร แต่คุณไม่รู้หรอกว่าคนข้างๆเขาเผชิญกับอะไรมา
(Spoil)
ก้องเป็นเด็กพิเศษ แต่สบายดี ที่ไม่สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้ มีความสุขก็ยิ้มไม่ได้ เศร้าก็ร้องไห้ไม่ได้ และสุดท้ายเป็นดาวที่ใช้ใจสัมผัสจึงได้เห็นอารมณ์ของเขา
VIDEO
เรื่องที่ 3 ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง ผมว่าพีคสุดและทำออกมาดีสุด และชัดเจนสุดจนไม่ต้องพูดอะไรเลย
เรื่องนี้นักแสดงเอาอยู่จริงๆ ผมรู้สึกว่าเขาคือคุณสืบ แสดงได้ออกมาดีมากๆ บวกกับโปรดักชั่นที่โอเครมัน ทุกอย่างมันลงตัว เป็นการเล่าเรื่องของคุณสืบ นาคะเสถียร เปิดฉากมาด้วยการไปช่วยเหลือสัตว์ที่กำลังจะตายจากการสร้างแก่งเชียวหลาน จากนั้นต่อสู้ป้องกันจนไม่สร้างเขื่อนน้ำโจนได้สำเร็จ และได้อาสาไปทำงานที่ห้วยขาแข้ง แต่ด้วยอิทธิพลของคนในพื้นที่ การคอรัปชั่นของคนในรัฐบาลรวมถึงลูกน้องของคุณสืบเอง และการเสียชีวิตของลูกน้องคุณสืบจากโจรบุกรุกป่า จนทำให้คุณสืบเห็นแล้วว่า คงไม่สำเร็จได้ จนคิดว่าต้องเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกแล้ว ก่อนที่คุณสืบจะยิงตัวตาย ได้เขียนจดหมายถึงลูก ผมชอบคำพูดที่เขียนถึงลูกมากประมาณว่า " .. เขาว่ากันว่าการฆ่าตัวตาย จะต้องชะใช้กรรมฆ่าตัวตายอย่างนั้นอีก 20 ชาติ แต่มันจะมีประโชน์ไหม ถ้าทำอย่างนั้นได้สามารถช่วยได้อีกมากมาย ... " และมีจดหมายถึงยูเนสโก้เสนอห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลก และพอเขายิงฆ่าตัวตายเพื่อปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่า ยูเนสโก้ ได้ขึ้นทะเบียนให้ห้วยขาแข้งกลายเป็นมรดกโลก อย่างที่เขาคาดหวังไว้จริงๆ ผมพึ่งรู้ว่า งบประมาณในการดูแลผืนป่าที่ดีที่สุดในประเทศ 80สตางค์/ไร่/ปี
"มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐจากการสมมุติตัวเอง สัตว์ป่ามีสิทธิ์มีชีวิต มนุษย์มีสิทธิ์อะไรไปเอาชีวิตมัน" ชีวิตคนเรามีรูปถ่ายตั้งหลายใบ สุดท้ายเหลือเพียงรูปขาวดำใบสุดท้ายของชีวิต
VIDEO
และ
เรื่องที่ 4 ดาว เรื่องสุดท้าย ที่เอาเด็กมาสื่อถึงการทำความดีได้ดีมาก เสียดสีสังคมได้ชัดเจน
เรื่องสื่อประมาณว่า คนในสังคมเดี๋ยวนี้ก็ทำความดีเอาหน้า คนจะทำความดีได้เมื่อได้รับประโยชน์จากการทำความดี ผมแอบมองไปไกลถึงสมุดบันทึกความดีที่เด็กทำ ว่าจริงๆแล้วเขาคิดจะอยากทำดีไหม หรือแค่ต้องทำเพราะสมุดมันบังคับให้ทำ ก็เหมือนกัน เรื่องนี้ หนุ่ย เป็นเด็กที่เรียนระดับปานกลาง เขาคิดว่าเขาทำทุกอย่างไม่ได้เรื่องเลยในสายตาพ่อของเขา เขาจึงอยากทำสักอย่างให้พ่อเขาภูมิใจ โดยเขาอยากเป็นคนเชิญธงชาติ แต่ก็ต้องเจอคู่แข่งเป็นเพื่อนร่วมห้อง(ที่เข้ามาเพราะหวังบางอย่าง) ครูได้ตั้งเกณฑ์ไว้ว่า ใครทำความดีอะไร จะให้หนึ่งดาว แล้วก็ใครได้มากที่สุดก็จะได้เชิญธง
เพื่อนร่วมห้องของเขาก็ทำเอาหน้าสารพัดจนได้เป็นคนเชิญธงชาติที่สุด ถึงหนุ่ยจะทำไม่สำเร็จไม่ได้เป็นคนเชิญธงชาติ แต่จะมีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนทำให้พ่อเขาเขาภูมิใจ มากกว่าเรื่องไหนๆซะอีก
VIDEO
กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า เป็นหนังที่ทกุคนควรไปดูจริงๆ เอาเป็นว่าผมน้ำตาไหลแทบทุกเรื่อง มีครบทุกอารมณ์ มันอาจไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ก็เป็นหนังที่ดีที่สุด