อีกไม่กี่วันสอบเสร็จ เพื่อนๆในรุ่นก็ทยอยจบกันแล้ว คงจะเหลือเพื่อนส่วนน้อยที่เหลืออยู่ รวมถึงตัวผม ที่ต้องคอยเกาะกลุ่มช่วยกัน พากันเรียนให้จบซะที ทั้งหมดก็เพื่อใบปริญญาเพียงใบเดียว เอาไปฝากที่บ้านให้พ่อแม่ภูมิใจ ให้คนที่รักเราภูมิใจ แต่หนทางที่จะได้มายังลิบหลี่มาก เพราะความที่ไม่ขยันแท้ๆ ตอนนี้ยังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าจะจบปีไหน ชีวิตจะเป็นไงต่อ แต่ตอนนี้ที่ผมรู้ ผมได้รู้ซึ้งกับคำนึงแล้ว กับการเรียนวิศวฯ "ยากน่ะกว่าจะเข้ามาเรียนได้ แต่จะเรียนให้จบมันยากยิ่งกว่า" ...
ถามว่าอิจฉาไหมที่เห็นเพื่อนจบ "โครตอิจฉา" ถามว่าเสียใจไหมที่เราไม่จบ พูดได้เต็มปากเลยว่า "เสียใจมาก" แต่ก็ต้องหันกลับมามองตัวเอง ลองถามตัวเองดูว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ เพราะเราขี้เกียจรึป่าว? เพราะเราไม่ขยันหรือเปล่า? เพราะเราไม่อ่านหนังสือมันเลยรึเปล่า? เพราะเราเอาแต่เที่ยวรึเปล่าว? เพราะเราเท่าแต่ดูหนังหรือเปล่า ? ถ้ามันใช่ไปหมด ก็คงต้องรู้ตัวได้ล่ะว่าทำอะไรอยู่ (ถึงหลายๆคนจะบอกว่ารู้ตัวช้าไปน่ะ) พูดกันตามจริง ก็รู้ตัวตลอดนั่นแหล่ะ แต่มันทำไม่ได้ซักที ไม่เข้าใจเพราะอะไร ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ จะทำยังไงให้ความขี้เกียจออกไปจากชีวิตซะที ต้องทำยังไงน่ะ (ผมคงปฏิเสธสำหรับคำตอบไม่ได้ เพราะผมรู้คำตอบดีเช่นเคย แต่ทำไม่เคยได้อีกเช่นกัน)

ซึ่งงานที่ผมทำสำหรับคนอื่นจะว่าง่าย ไม่มีอะไรเลย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาไม่ได้มาทำคงไม่รู้หลอก แต่สำหรับผมผมว่ายากมากน่ะ ด้วยความที่ไม่เทพ java พอมาเขียน android ก็งานเข้าเลยเต็มๆ ไปได้ช้าโครตๆ ซึ่งมันเป็นปัญหาหลักสำหรับผมเลย ยิ่งงานที่ทำจะต้องเอา Tools Network ไปใช้บน Android เข้าอีก สำหรับผมมันยากไปอีกขั้น ตอนทำไม่ได้ ถึงขั้นท้อจะเปลี่ยนโปรเจ็คเลย (แต่ก็ต้องขอบคุณพี่กาย ห้องปิวป้าที่ช่วยจนทำได้ ถ้าไม่ได้พี่ ผมคงไปเกิดแน่ๆ) พอได้แล้วก็ต้องทำ Authen กับ Server เพื่อให้รู้ว่าใครเป็นคนใช้อยู่ ซึ่งตอนหลังเปลี่ยนไปเชื่อมต่อกับ PSU Passport เสริมอีกต่อ ทำได้แล้วต่อมาต้องทำให้ตัว Tools Network (iperf) ที่ใส่เข้าไป ดึงฟังชั่นการทำงานออกมาให้ได้มากที่สุด ต้องให้ผู้ใช้เลือกได้ต้องการที่จะทดสอบอะไร ก็ต้องไปแอนดรอยด์ไปดึงค่าจาก Jason ที่คิวรี่ข้อมูลคำสั่งที่เตรียมไว้จาก DB เรียบร้อยบแล้ว มาโชว์บนเครื่องให้ผู้ใช้เลือก จากนั้นเมื่อผู้ใช้เลือกก็ส่งคำสั่งเข้าไปใน Tools Network (iperf) ให้มันทำงานทดสอบ WiFi ไป แล้วจัดการดักค่าที่ได้ออกมาเก็บใน text file ไว้ อ้ออีกอย่างที่สำคัญคือต้องทำให้แอพฯ เก็บค่าทุกอย่างในสภาพแวดล้อมที่เครื่องจะ Get ค่าได้ส่งออกไปด้วย เช่น IP Address ,SSID ,GPS ,ระดับสัญญาณของ WiFi เพิ่มไปใน text file ส่งค่าไป Server ด้วย สำหรับงานชิ้นนี้เต็มๆเดี๋ยวถ้ามีว่างๆค่อยเขียนแยกออกมาให้ระเอียดหน่อย เพราะมีส่วนนึงทำงานกับพี่ห้องวิจัยอีกคน หวังว่าจะมีโอกาสเขียน ><
หลังจากพรีเซ่นจบก็เป็นงานปัจฉิมภาควิชา ที่มอบให้แก่พวกเรา CoE22 โดยในงานได้เชิญศิษย์เก่าพี่ประสิทธิ ตันพาณิชรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บจก.เอ.พี.เค.เฟอร์นิเจอร์พาราวู้ด/บจก.เอ.พี.เค.กรียนเอ็นเนอร์จี มาพูดเกี่ยวกับความพร้อมในการทำงาน เอาตรงๆว่าผมฟังไปได้สักพักก็หลับแล้ว เพราะเมื่อคืนยังไม่ได้นอน บวกกับพรีเซ่นตอนเช้าต้องจัดเตรียมยกของเหนื่อยมาก ช่วงบ่ายไปคุมแลปต่ออีก กลับมานั่งฟังตอนเย็น+แอร์เย็นๆด้วย หลับเลย แต่พอตื่นขึ้นมาก็พอได้ฟังช่วงตอนท้ายๆ ผมจับประเด็นพอได้ว่า โชคดีที่เรียนวิศวฯ ถึงงานพี่เขาไม่ได้ทำงานตรงกับวิศวฯคอมโดยตรง แต่ เพราะวิศวฯสอนให้คิดเป็นระบบก็เลยสามารถไปทำงานทุกอย่างได้ การที่เราโดนยิงโปรเจ็คเยอะๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะ ตอนทำงานจริงถ้าหัวหน้างานเป็นแบบอาจารย์ก็ต้องรับให้ได้ พี่เขาแต่งงานกับพี่ภาคเคมีด้วย ผมเลยไม่แปลกใจว่าทำไมสร้างโรงงานที่สองเกี่ยวกับพลังงานได้ โดยดึงพลังงานจากรากของต้นยางมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าเลี้ยงโรงงาน ถือว่าเมพมากๆ
จากนั้นเมื่อบรรยายเสร็จ อาจารย์ก็พูดต่อว่า ว่าไม่ตั้งใจฟังพี่เขาเลย รู้สึกผิดขึ้นมาในบัดดล แล้วอาจารย์ก็ถามเพื่อน 5 คนว่า แรงบันดาลใจหรือว่าอะไรบ้างที่เราใช้ พูดมาให้ได้เยอะมากที่สุด สิ่งที่ทุกคนพูดตรงกันคือ ครอบครัว ไ่ม่ว่าจะเป็นเป็นพ่อหรือแม่ ผมชอบคำๆนึงมากมีเพื่อนอกว่า เวลาหนูทำอะไรหนูจะคิดก่อนทำ แล้วเวลาทำก็นึกถึงพ่อแม่ตลอด ผมว่าคำตอบแค่นี้มันเพียงพอแล้วสำหรับทุกอย่าง
จากนั้นให้ประธานแต่ล่ะคนออกมาพูด คนแรกจูเหนี่ยร์ คนสองก็พริก คนสามเป็นผม และคนที่สี่ก็เป็นบ็อท ตามจริงก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะที่พูดไปก็คงซ้ำๆเพื่อน อีกอย่างผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเห็นๆกันอยู่แล้วว่าเป็นไง แต่ก็ต้องออกไป เห็นทุกคนพูดแต่กับครอบครัว ก็เลยขอดึงเข้าเรื่องเพื่อนว่า ที่รุ่นเรามาถึงทุกวันนี้ได้ คงไม่ต้องขอบคุณใครที่ไหน ถ้าจะขอบคุณคงต้องขอบคุณพวกเรากันเอง เพราะพวกเราช่วยกัน ถึงทำให้รุ่นมาถึงตรงนี้ได้ จากนั้นอาจารย์ก็มาให้ข้อคิดปิดท้าย ที่ผมพอจะจำได้ ช่วงนั้นสมองเบลอๆไปหน่อย จำมาได้สามอย่างคือ เวลากำหนดเป้าหมาย อย่าคิดถึงตัวเองมากนัก แล้วมันจะยิ่งใหญ่ ,แล้วก็เอาใจเขา มาใส่ใจเรา (อ.ทวีศักดิ) ก่อนทำอะไร คิดให้ดี ให้มีสติ รู้ว่าอะไรควรเชื่อและไม่ควรเชื่อ และทำอะไรต้องเชื่อถือได้และถูกต้องเสมอ (อ.แสงสุรีย์)
ปล.สุดท้ายรู้สึกโชคดีมากที่มาได้เรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม.สงขลานครินทร์ โชคดีมากได้มาอยู่รุ่นที่ 22 ถึงไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่รู้เพียงว่าตอนนี้คิดไม่ผิดจริงๆที่ได้มาเรียนที่นี่ คิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกที่นี่ คิดไม่ผิดจริงๆที่ได้มาใช้ชีวิตที่นี่ และไม่คิดผิดจริงๆที่ได้มาเจอเพื่อใหม่ที่นี่ ขอให้เพื่อนๆที่จบไปประสบความสำเร็จใจชีวิต มีงานมีการทำเร็วๆ เงินเดือนสูงๆล่ะ ผมก็ต้องเรียนให้จบให้ได้ เจอกันก็อย่าลืมทักกันด้วยล่ะ :)